แชทไลน์บรรทุกหลุด !!! วิโรจน์ แฉขบวนการ ส่วยทางหลวง

แชทไลน์บรรทุกหลุด !!! วิโรจน์ แฉขบวนการ  ส่วยทางหลวง

หลัง วิโรจน์ ว่าที่ สส พรรคก้าวไกล ออกมาเปิดโปง ส่วยสติ๊กเกอร์ ส่วยทางหลวง ดิ้นหนีตาย สั่งทิ้งสติกเกอร์เดิม เหลือแค่รุ่น “เรารักประเทศไทย” ย้ายจุดติด ส่วยสติ๊กเกอร์ ไปหลังที่บังแดด พล่านวิ่งลดน้ำหนักเกินต่อ นัดแนะบอกเวลาผ่านด่านผิดกฎหมายหลายจังหวัด กำชับตอนนี้วิ่งกลางคืนหนีข่าวฉาว หากไม่ไหวให้บรรทุกไม่เกินน้ำหนักไปก่อน

ล่าสุดวันนี้ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ได้ลงนามคำสั่งให้ พล.ต.ต.เอกราช ลิ้มสังกาศ ผบก.ทล. ไปปฏิบัติหน้าที่ประจำศูนย์ปฏิบัติการกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง โดยขาดจากการปฏิบัติหน้าที่ตำแหน่งเดิม พร้อมกันนี้ ยังได้ลงนามคำสั่งให้พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว ผบก.ปปป. ปฏิบัติหน้าที่รักษาราชการแทน ผบก.ทล. อีกตำแหน่ง

การขจัดการนายทุน + กลุ่มอำนาจเกิดขึ้นได้ ก็ต่อเมื่อผู้บริหารประเทศไม่มีส่วนได้ส่วนเสียที่ได้ผลประโยชน์ร่วมจากอำนาจอันมิชอบนั้นเสียก่อน แล้วนั้นคือคุณสมบัติที่ก้าวไกลมีอยู่ เกิดความโปร่งใส ไร้ corruption

วิโรจน์ ตอกยับหลังตำรวจระดับสูงพูดถึง ส่วยทางหลวง

คำตอบของตำรวจระดับสูงที่บอกว่า “ถ้าประชาชนคนไหนเจอส่วย ก็ให้แจ้งมา จะจัดการให้” ไม่ต่างจากประโยคที่บอกว่า “ถ้าเห็นขี้ผมให้บอกด้วย ผมจะได้ไปล้างก้น” นั่งทับขี้เอาไว้ ก็รู้อยู่แก่ใจ ทุกคนได้กลิ่นเหม็นตลบอบอวลไปหมด เวลานั่งแล้วมันลื่นๆ ไม่คิดจะไปล้างก้นเองเลยหรือ

วิโรจน์ ตอกยับหลังตำรวจระดับสูงพูดถึง ส่วยทางหลวง

แม้แต่คนขายล็อตเตอรี่ หาเช้ากินค่ำ ก็ยังต้องจ่ายส่วย ผมรู้สึกทุกข์ใจมาก ทุกวันนี้ค้าขายก็ลำบากอยู่แล้ว ข้าวของก็แพง ค่าไฟก็ขึ้น หนึ่งคนต้องหาเลี้ยงหลายปากหลายท้อง ทำไมพวกเขาต้องมาถูกรีดไถ แบบนี้อีกด้วยนะ เลิกเอากฎหมายมาเป็นเครื่องมือในการรังแกประชาชน ซะทีเถิดครับ

สรุปต้นตอ #ส่วยทางหลวง วงจรส่วยก็ต้องปราบ แต่สิ่งที่ต้องทำควบคู่กัน ก็คือ การทบทวนปรับปรุงกฎหมาย ให้สอดคล้องกับหลักวิศวกรรม ไม่ให้ข้าราชการที่ไม่ดีบางคน ใช้เป็นเครื่องมือในการรีดไถ เรียกเก็บส่วยจากประชาชน

ส่วนผู้การทางหลวงยืนยันว่าจากการตรวจสอบแล้วไม่พบว่ามีตำรวจทางหลวงเกี่ยวข้องกับส่วยสติ๊กเกอร์แม้แต่คนเดียว

แบบนี้ ถ้ามีผู้ประกอบการออกมาแฉว่ามีตำรวจทางหลวงเกี่ยวข้องด้วยจริง ผู้การฯจะรับผิดชอบคำพูดนี้ยังไง จะพิจารณาตัวเองหรือไม่ อย่ามาบอกว่าส่วยเป็นปลายเหตุ

เรื่องน้ำหนักเป็นต้นเหตุไม่ได้ อะไรจะต้นเหตุก็ตาม แต่ตำรวจไม่มีสิทธิ์เอาเรื่องนั้นเป็นเงื่อนไขเรียกรับส่วย

ผบ.ตร. เองก็จะไม่รู้เลยเหรอว่ามีส่วยสติ๊กเกอร์ ทั้งที่มีมานานกว่า 30 ปีแล้ว ท่านไม่รู้ระแคะระคายเลยเหรอ ส่วยสติ๊กเกอร์มีรายได้ปีละ 1-2 หมื่นล้านเลยนะ ไม่ใช่น้อยๆ