เมื่อนึกถึงทีมที่มีการเปลี่ยนแปลงมากที่สุดในฤดูกาลนี้ ต้องยกให้ บรู๊คลินน์ เน็ตส์ ที่เปลี่ยนทั้งหัวหน้าโค้ช และ สตาร์ ตัวนำของทีม ในช่วงระหว่างฤดูกาล ซึ่งเป็นการเปลี่ยนแปลง ล้างทีมชุดใหญ่ ช่วงกลางซีซั่น แบบที่ไม่ค่อยมีทีมไหนเขาทำกัน แต่เน็ตส์ ทำแบบนั้นในซีซั่นนี้ ก่อนจะจบลงด้วยการพ่ายแพ้ต่อ ฟิลาเดลเฟีย เซเวนตีซิกเซอร์ส อย่างหมดสภาพ โดนกวาด 0-4
ก่อนเปิดฤดูกาลนี้ บรู๊คลินน์ เน็ตส์ นำโดย 2 ซูเปอร์สตาร์ ชั้นนำของเอ็นบีเอ อย่าง คายรี่ เออร์วิ่ง กับ เควิน ดูแรนท์ โดยมี สตีฟ แนช เป็นหัวหน้าโค้ช รวมถึง มึ เบน ซิมมอนส์ อดีตผู้เล่นสตาร์ ที่อยู่รับค่าเหนื่อยระดับ Max Contract โดยแทบไม่ได้ทำอะไร
เมื่อเริ่มซีซั่น เน็ตส์ มีผลงานย่ำแย่ ชนะ 2 เกม แพ้ไป 5 เกม ทำให้เน็ตส์ ตัดสินใจ ไล่แนช ออกจากตำแหน่งหัวหน้าโค้ช แล้วแต่งตั้ง ฌาคส์ วอห์น ผู้ช่วยโค้ชขึ้นมาทำหน้าที่หัวหน้าโค้ชแทน ซึ่งช่วยให้ทีมดีขึ้นพอสมควร
เน็ตส์ ภายใต้การคุมทีมของวอห์น อยู่ในพื้นที่เพลย์ออฟ ดูปกติ โดยมีดราม่าเรื่องคายรี่ เออร์วิ่ง แชร์เกี่ยวกับภาพยนตร์ที่เหยียดชาวยิว ทางโซเชียลมีเดีย ทำให้ถูกแบน ไม่ได้ลงสนามพักนึง
สิ่งดีที่เกิดขึ้นในช่วงต้นฤดูกาลคือ นิค เคล็คส์ตัน เซ็นเตอร์ตัวหลักของทีม สามารถแจ้งเกิด ขึ้นมาเป็นผู้เล่นตัวใหญ่ที่ป้องกันได้อย่างสุดยอดมาก
อยู่ดีดี ความบันเทิงมาเกิดขึ้นในช่วงต้นเดือนกุมภาพันธ์ 2023 ซึ่งเป็นช่วงใกล้เส้นตายการเทรดของเอ็นบีเอ เมื่อทีมเน็ตส์ ตัดสินใจเทรด คายรี่ เออร์วิ่ง ไปดัลลัส แมฟเวอร์ริกส์ พร้อมกับมาร์คีฟ มอร์ริส แลกกับ สเปนเซอร์ ดินวิดดี้ และ ดอเรี่ยน ฟินนี่ย์ สมิทธ พร้อมด้วยสิทธิ์ดราฟต์รอบแรก 2 ปี
เท่านั้นไม่พอ ในวันเส้นตายการเทรด ก็มีการเทรดที่ดูเผินๆ นึกว่า เฟคนิวส์ นั่นคือ เควิน ดูแรนท์ ถูกเทรดไป ฟีนิกซ์ ซันส์ พร้อมกับ ทีเจ วอร์เรน แลกกับ มิคคาล บริดเจส, คาเมรอน จอห์นสัน, เจย์ คราวเดอร์ และ สิทธิ์ดราฟต์รอบแรก 3 ปี
อยู่ดีดี 2 สตาร์หลักของทีมอย่าง เออร์วิ่ง และ ดูแรนท์ ก็ย้ายออกจากทีมช่วงกลางซีซั่นซะงั้น
เท่านั้นไม่พอ มีข่าวว่า เน็ตส์ ได้เสนอ เบน ซิมม่อนส์ พร้อมด้วยสิทธิ์ดราฟต์ที่เพิ่งได้มา ให้กับ โตรอนโต้ แร็พเตอร์ส แลกกับ พาสคาล เซียแคม หรือ เฟรด แวนฟลีต แต่ทางทีม แร็พเตอร์ส ก็ปฏิเสธข้อเสนอนี้
หลังความบันเทิงในช่วงวันเส้นตายการเทรด ซึ่งเป็นเหมือนกับ “การเปลี่ยนแปลงเข้าสู่ยุคใหม่” บรรดาผู้เล่นใหม่ที่เข้ามาอย่าง ดินวิดดี้, บริดเจส รวมถึง จอห์นสัน และ ฟินนี่ย์ สมิทธ ต่างช่วยทีมได้อย่างน่าประทับใจ พาทีมจบด้วยอันดับ 6 ของสายตะวันออก
ตลอดฤดูกาลนี้ ซิมม่อนส์ ลงสนาม 42 เกม ทำเฉลี่ย 6.9 คะแนน 6.3 รีบาวด์ และ 6.1 แอสซิสต์ ต่อเกม ทั้งที่รับค่าเหนื่อยระดับ Max Contract แล้วไม่ได้ลงสนามในช่วงท้ายฤดูกาลเลย เนื่องจากเจ็บหลัง
ดูท่าทาง เราอาจไม่เห็นซิมม่อนส์ สวมชุดของเน็ตส์ ลงสนาม แล้วก็ได้ โดยมีข่าวว่า ทีมกำลังพิจารณาเทรดเขาในช่วงกลางปีนี้
หลังมีปัญหาคาราคาซังมานาน ในที่สุดก็ถึงจุดจบ สำหรับมหากาพย์ ดราม่า คู่หูนรกแตก คายรี่ เออร์วิ่ง และ เควิน ดูแรนท์ ที่ย้ายมา พร้อมกับสร้างปัญหาให้กับเน็ตส์มาร่วม 4 ปี แม้จะช่วยให้ทีมมีโอกาสประสบความสำเร็จ
ต้องรอดูกันต่อไป ว่า บรู๊คลินน์ เน็ตส์ “โฉมใหม่” จะมีการเสริมทัพ สร้างทีม ได้ดีกว่าตอนที่เออร์วิ่ง และ ดูแรนท์ อยู่กับทีมนี้ หรือไม่
