ผู้สื่อข่าวภูมิภาครายงานว่า เมื่อวันที่ 12 กรกฎาคม 2564 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองกาฬสินธุ์ รับแจ้งเหตุไฟไหม้บ้านเรือนประชาชนใน ต.หลุบ อ.เมือง จ.กาฬสินธุ์ หลังรับแจ้งจึงประสานไปยังเจ้าหน้าที่ดับเพลิงเทศบาลเมืองกาฬสินธุ์ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นใกล้เคียง และอาสาสมัครหน่วยกู้ภัยจ.กาฬสินธุ์เร่งนำรถเข้าควบคุมเพลิง พร้อมรายงานไปยัง พ.ต.อ.ณรงค์ฤทธิ์ สุริยะ ผกก.สภ.เมืองกาฬสินธุ์ และเดินทางเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ
โดยที่เกิดเหตุต้นเพลิงอยู่บ้านเลขที่ 64 บ้านเตาไห ม.4 ต.หลุบ อ.เมือง จ.กาฬสินธุ์ อยู่ตรงข้ามกับโรงเรียนอนุบาลกาฬสินธุ์(สาขาบ้านเตาไห) ซึ่งเป็นบ้านไม้ 2 ชั้น เพลิงกำลังลุกไหม้อย่างรวดเร็ววอดเสียหายทั้งหลัง และลามไปยังบ้านข้างเคียงอีก 1 หลัง เจ้าหน้าที่ต้องระดมกำลังและรถดับเพลิงฉีดน้ำสกัดไม่ให้ลุกลามเพิ่มเติม ก่อนใช้เวลากว่า 1 ชั่วโมง จึงสามารถควบคุมเพลิงไว้ได้
จากการตรวจสอบเบื้องต้นทราบว่า สาเหตุของไฟไหม้ครั้งนี้ นายอนุชา ชนะศึก อายุ 20 ปี ซึ่งเป็นหลานเจ้าของบ้านจุดไฟเผา และหลังก่อเหตุได้ขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีไป โดยเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนสภ.เมืองกาฬสินธุ์อยู่ระหว่างกำลังเร่งติดตามตัวมาดำเนินคดี ส่วนความเสียหายอยู่ระหว่างการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่
สอบถามนางสมร ชนะศึก อายุ 62 ปี เจ้าของบ้านต้นเพลิงที่เกิดไฟไหม้ กล่าวว่า นายอนุชา ชนะศึก เป็นหลานชาย และได้อาศัยอยู่กับตนที่บ้านหลังดังกล่าวตั้งแต่ยังเล็กๆ เนื่องจากพ่อ แม่แยกทางกัน ทั้งนี้ก่อนเกิดเหตุเมื่อวันที่ 11 กรกฎาคมที่ผ่านมา นายอนุชา ได้มาขอเงิน 7,000 บาท บอกว่าจะเอาไปรักษามือและแขนที่ลีบตั้งแต่เด็กๆ หยิบจับไม่สะดวก แต่ตนไม่มีให้ จึงขู่ว่าจะจุดไฟเผาบ้าน ซึ่งตนก็ไม่คิดว่าจะเผาบ้านจริงๆ กระทั่งวันนี้ได้มาขอเงินอีกครั้ง ซึ่งตนก็บอกว่าไม่มี ก่อนที่หลานจะไปซื้อน้ำมันมาและอาศัยจังหวะตนเผลอนั่งอยู่หน้าบ้านแอบไปจุดไฟเผาบ้านจนวอดเสียหายทั้ง 2 หลังดังกล่าว
ทั้งนี้หลังเกิดเหตุ พ.ต.อ.ณรงค์ฤทธิ์ สุริยะ ผกก.สภ.เมืองกาฬสินธุ์ สั่งการให้ พ.ต.ท.เทวฤทธิ์ บูรณรักษ์ รอง ผกก.สส.สภ.เมืองกาฬสินธุ์ พ.ต.ท.สีหนาท จันทร์เหลือง สว.สส.สภ.เมืองกาฬสินธุ์ พร้อมชุดสืบสวนสภ.เมืองกาฬสินธุ์เร่งติดตามตัวผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดี กระทั่งเจ้าหน้าที่สามารถติดตามจับกุมตัวได้ที่บริเวณถนนหน้าวัดดอนนาแก ต.หลุบ อ.เมืองกาฬสินธุ์ หลังจากขี่รถจักรยานยนต์หลบหนี พร้อมคุมตัวมาทำแผนที่เกิดเหตุประกอบคำรับสารภาพบริเวณบ้านที่เกิดไฟไหม้
โดยนายอนุชา รับสารภาพว่า ก่อนเกิดเหตุได้ขอเงินนางสมร ผู้เป็นย่าจำนวน 7,000 บาท เพื่ออยากจะนำไปตรวจรักษาแขนและมือที่ลีบ แต่ย่าไม่มีให้ ด้วยความโมโหและน้อยใจ จึงไปซื้อน้ำมันมาราดบริเวณชั้นสองของบ้านราดลงมาชั้นล่างและจุดไฟเผาจนเกิดเพลิงไหม้ แล้วขี่รถจักรยานยนต์หนี เจ้าหน้าที่จึงนำตัวส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดี โดยแจ้งข้อหาวางเพลิงเผาทรัพย์ที่เป็นโรงเรือน
