ผู้สื่อข่าวภูมิภาครายงานว่า เมื่อวันที่8กรกฎาคม 2564อาสาสมัครหน่วยกู้ชีพกู้ภัยสุรินทร์ได้รับแจ้งว่ามีเหตุทำร้ายร่างกายกันถึงขั้นเสียชีวิต ในเขตพื้นที่บ้านหนองยางหมู่6ต.ตรำดมอ.ลำดวนจ.สุรินทร์ต่อมาทราบชื่อผู้เสียชีวิตคือนายสมเกียรติสงวนนามสกุลอายุ49ปี เป็นชาวบ้านกะลันทะ หมู่ 11 ต.สำโรง อ.เมือง จ.สุรินทร์ ส่วนผู้ก่อเหตุเป็นลูกเลี้ยง คือ นายนิรัน (สงวนนามสกุล)อายุ 25 ปี ได้ลงมือฆ่าพ่อเลี้ยงของตนเองคามุ้งบนที่นอนภายในบ้านโดยใช้กำปั้นทุบ และใช้เท้ากระทืบ สาเหตุนั้นเกิดมาจากความโมโหที่ถูกผู้เป็นแม่และพ่อเลี้ยงตักเตือนให้สวมแมสก์เพื่อป้องกันโรคโควิด
นางระหงษ์ (สงวนนามสกุล) อายุ 52 ปีภรรยาผู้เสียชีวิต กล่าวว่า ตนเพียงแค่ตักเตือนลูกชายว่าเดินไปไหนมาไหนให้ใส่แมสก์ด้วย เพราะว่าผู้ใหญ่บ้านเขาประกาศ ถ้าถูกจับได้ อาจจะติดคุก 1 ปี และต้องโดนปรับอีก 2 หมื่น แม่ไม่มีเงินจะจ่ายให้ ลูกชายก็ตะคอกกลับมาว่าติดคุกก็ติด ไม่กลัว แต่ตนก็บอกลูกกลับไปว่าแม่สอนให้ลูกเป็นคนดี ไม่ได้สอนให้ลูกเป็นคนชั่ว แต่พอสามีที่นอนอยู่ในมุ้งได้ยินเสียงตนกับลูกทะเลาะกัน ก็เลยตะโกนถามมาว่ามีอะไรกัน ด่าแม่ทำไม แค่นั้นลูกชายก็ปรี่เข้าทำร้ายสามีเลยโดยใช้มือต่อยเข้าที่บริเวณใบหน้าของสามี และใช้เท้ากระทืบ โดยตนก็พยายามเข้าไปห้าม แต่ก็โดนลูกหลงจนปากแตก
นางระหงษ์ กล่าวอีกว่า ก่อนหน้านี้ลูกชายเป็นคนนิสัยดี แต่ช่วงหลังๆมีอาการป่วยจิตเวชมาประมาณ 3-4 ปีแล้ว ซึ่งสาเหตุก็ไม่รู้ว่าทำไมลูกถึงมีอาการป่วย เพราะเมื่อก่อนก็ปกติดีเหมือนคนทั่วไป โดยเหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อช่วงเวลาประมาณ 19.00 น.ของคืนวันที่ 7 กรกฎาคม 2564 ก่อนตน และญาติๆจะนำตัวสามีส่งโรงพยาบาลสุรินทร์ และเสียชีวิตในเวลาต่อมาที่โรงพยาบาล และได้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจมาจับกุมลูกชายไปคุมขัง ที่ สภ.ลำดวน
ด้านพี่สาวผู้เสียชีวิต กล่าวว่า นานๆทีจะเจอกับหลานคนนี้ เขาจะมากับแม่ของเขา ตนไม่ค่อยรู้จักนิสัยใจคอมากนักว่าเป็นคนอย่างไร แต่มาทีไรก็ชอบเดินวนไปวนมา ตนรู้เพียงว่าหลานป่วยจิตเวช ซึ่งตนยังไม่ทราบรายละเอียดมากนัก เพราะเหตุเกิดขึ้นที่บ้านของแม่ผู้ก่อเหตุ ซึ่งอยู่อีกหมู่บ้านหนึ่ง แต่ทราบเพียงว่าใช้มือและเท้าทุบตี
