ผู้สื่อข่าวภูมิภาครายงานว่า วันที่ 3 กรกฎาคม 2564 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ทะเลน้อย และสายตรวจ ลงพื้นที่ตรวจสอบเหตุพ่อใช้มีดพร้ากระหน่ำฟันบุตรชายที่มีประวัติติดยาเสพติดที่ทำร้ายร่างกายมารดาที่เป็นผู้ป่วยติดเตียง จนมีปากเสียงและจะเข้าทำร้ายร่างกายผู้เป็นพ่อจนถูกพ่อใช้มีดพร้ากระหน่ำฟันจนได้รับบาดเจ็บสาหัส ขณะนี้พลเมืองดีและญาติๆได้นำร่างผู้บาดเจ็บส่ง รพ.ควนขนุนและนำส่งต่อไปยัง รพ.พัทลุงในเวลาต่อมา โดยเหตุเกิดที่บ้านชั้นเดียวยกพื้นต่ำ ต.พนางตุง อ.ควนขนุน จ.พัทลุง ซึ่งตั้งอยู่ริมถนนเลียบริมทะเลน้อย ในเขตห้ามล่าสัตว์ป่าทะเลน้อย
ในที่เกิดเหตุ ตร.พบกองเลือดตกอยู่ภายในบ้าน ห้องโถง และบริเวณม้าหินอ่อนหน้าบ้านจำนวนหลายกอง ส่วนผู้บาดเจ็บไม่ใช่ใครที่ไหนแต่เป็นบุตรชายเจ้าของบ้านที่มีประวัติเสพยาเสพติด ทราบชื่อว่า นายเกียรติศักดิ์ อายุ 36 ปี โดยถูกฟันด้วยมีดพร้าเข้าที่บริเวณศีรษะ ใบหน้า แขนขวา อาการสาหัสเป็นตายเท่ากัน ในขณะที่นายสมมาตร อายุ 76 ปี ผู้ที่ใช้มีดพร้าฟันบุตรชายตนเองได้ยืนรอมอบตัวพร้อมด้วยมีดพร้าเปื้อนเลือดด้วยสีหน้าอันเศร้าหมอง
จากการสอบสวนในเบื้องต้นทราบว่าบ้านหลังดังกล่าวซึ่งสร้างเชื่อมกัน 2 หลัง มีห้องโถงเชื่อมติดต่อกัน มีผู้อาศัยอยู่ 6 คน ประกอบด้วย นายสมมาตรฯอายุ 76 ปี (แม่ผู้บาดเจ็บ)นายเกียรติศักดิ์ ฯ นางชนิษฐา อายุ 50 ปี และสามี พร้อมหลานอีก1คนก่อนเกิดเหตุ 2 วัน นายเกียรติศักดิ์ฯได้มีปากเสียงกับนางชนิษฐาฯ ผู้เป็นพี่สาว จนพี่สาวและครอบครัวต้องออกไปพักอาศัยอยู่นอกบ้านเพราะเกรงว่าจะได้รับอันตรายจากน้องชาย
ก่อนเกิดเหตุนายเกียรติศักดิ์ฯได้อุ้มนางเช้าฯซึ่งเป็นผู้ป่วยติดเตียงไปอาบน้ำในห้องน้ำ พร้อมใช้กำลังจับมารดากระแทกกับพื้นห้องน้ำ พร้อมใช้สายยางฉีดน้ำใส่มารดา ทางด้านนายสมมาตรฯผู้เป็นบิดาจึงเข้ามาห้ามปรามพร้อมตักเตือนมิให้บุตรชายทำร้ายร่างกายมารดา ทำให้นายเกียรติศักดิ์ฯไม่พอใจจนมีปากเสียงกันกับบิดา พร้อมกับจะเข้าทำร้ายร่างกายบิดา นายสมมาตรฯเห็นท่าไม่ดีจึงไปหยิบมีดพร้าพร้อมทั้งพูดให้บุตรชายกระทำการดังกล่าว แต่บุตรชายฯได้พุ่งเข้ามาทำร้ายร่างกายจนถูกนายสมมาตรฯใช้มีดพร้าฟันจนได้รับบาดเจ็บสาหัส และวิ่งออกไปนั่งที่ม้าหินอ่อนจนเพื่อนบ้านและญาติๆได้นำส่ง รพ.ควนขนุน ในเวลาต่อมา
สำหรับนายเกียรติศักดิ์ฯนั้น มีพฤติกรรมที่ก้าวร้าว ขอบทำลายทรัพย์ภายในบ้าน และทำร้ายร่างกายคนในบ้านจนผู้ถูกกระทำได้นำความเข้าแจ้งต่อพนักงานสอบสวนหลายครั้งแล้ว ส่วนอาการนั้นยังไม่พ้นขีดอันตราย เป็นตายเท่ากัน ข่าวคืบหน้าจะรายงานให้ทราบต่อไป