จับร่างทรงหื่น ลวงสาวแก้กรรมในโรงแรม บังคับเสพยา ทำอนาจาร

จับร่างทรงหื่น ลวงสาวแก้กรรมในโรงแรม

ร่างทรงหื่น

จับร่างทรงหื่น วันที่ 26 มี.ค.64 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจปปส.และเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บ้านบึง ได้มีการแสดงตัวเข้าขอตรวจค้นภายในบ้านหลังหนึ่ง หมู่บ้านคู่ขวัญ หมู่ที่ 2ตำบลหนองซ้ำซาก อำเภอบ้านบึง จังหวัดชลบุรี เพื่อทำการจับกุม นายปิยะวัฒน์อายุ43 ปีร่างทรงไปสอบสอบสวน

จากที่เฟซบุ๊กรายหนึ่งได้โพสต์ประกาศตามหามตัวน้องสาวที่หายไปพร้อมรถยนต์เก๋งนั่งส่วนบุคคล ตั้งแต่วันที่ 25 มีนาคม 64 มีสัญญาณติดต่อได้อยู่บริเวณพื้นที่ตำบลหนองซ้ำซาก และ ได้มีนางสุภินิ อายุ 44 ปี ภรรยา ออกมารับหน้าแทน ไม่ยอมให้เข้าไป อ้างต้องมีหมายตรวจค้นจนเจ้าหน้าที่ตำรวจต้องมีการแสดงถึงเหตุผลซึ่งหน้า และทำการจู่โจมใช้อุปกรณ์งัดประตูเข้าไปและได้ทำการควบคุมตัวนายปิยะวัฒน์ ผู้ต้องหาไปสอบปากคำ ที่ สภ.บ้านบึง ที่ได้ยอมรับว่าตนเองเสพยาบ้า และรับว่า นางสาวบี บุคคลที่ถูกตามหา รู้จักกับตนเองจริง แต่ไม่ได้ลวงไปทำอนาจาร

ขณะเดียวกันทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้มีการควบคุมตัว ผู้อยู่ในบ้าน ซึ่งเป็นภรรยาของร่างทรง ไปทำการสอบสวน และมีการตรวจปัสสาวะ พบว่าผู้ต้องหาและเมียอีก 2 คน มีสารเสพติดภายในร่างกาย

ด้านทางนางสาวเอ (นามสมมุติ) พี่สาวได้พานางสาวบี ที่ยังอยู่ในอาการเบลอพูดจาไม่รู้เรื่อง เข้าแจ้งความต่อทางพนักงานสอบสวน เผยว่า ตนได้รับการแชทจากร่างทรงจอมปลอมว่าให้ไปทำพิธีแก้กรรมแต่ได้ปฏิเสธ ต่อมาทราบร่างทรงได้โทรหาน้องสาวให้ขับรถมารับไปทำธุระ มารู้ข่าวน้องหายก็โพสต์ตามหา และรู้ว่าถูกร่างทรงล่อลวงพาตัวเข้าโรงแรม และบังคับให้เสพยา ทำอนาจาร ซึ่งพฤติกรรมของร่างทรง พูดจาหว่านล้อมให้หลงเชื่อในทำนองว่ามีเคราะห์ ต้องแก้กรรม ทำพิธียกบายศรีเสริมความเป็นมงคล แล้วชีวิตจะราบรื่น สุดท้ายเป็นการหลอกลวง เพื่อต้องการพาไปร่วมเสพยาและทำอนาจาร ซึ่งคาดว่ามีหญิงสาวตกเป็นเหยื่อแล้วหลายราย

 ลวงสาว
ลวงสาว