กระแสขุดบิตคอยน์เดือด ทำเอาค่าบาทแข็งนิ่ง ป่วนการเมืองสหรัฐยับ!!!

หลังจากเศรษฐกิจของประเทศกำลังอยู่ในช่วงปรับตัว แต่เช้าวันที่ 7 มกราคมนี้ ราคาค่าเงินบาทยังอยู่ที่ 29.93 บาทต่อดอลลาร์ เหมือนเดิมโดยประมาณการไว้น่าจะอยู่ที่ระหว่าง 29.80-30.00 บาทต่อดอลลาร์

ช่วงคืนที่ผ่านมาตลาดการเงินเข้าสู่โหมดเปิดรับความเสี่ยง (Risk On) ดัชนี S&P 500 ของสหรัฐและดัชนี STOXX 600 ของยุโรปปรับตัวขึ้น 0.57% และ 1.37% ตามลำดับ โดยนักลงทุนขายทำกำไรหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีที่ถือไว้หลบความเสี่ยงในช่วงที่ผ่านมา และเข้าสู่การลงทุนในหุ้นขนาดเล็กกลุ่มวัฏจักร หลังจากผลการเลือกตั้งชี้ว่าพรรคเดโมแครตสามารถครองเสียงข้างมากในสภาสูงของสหรัฐได้

ด้านตลาดเงิน บอนด์ยีลด์สหรัฐอายุสิบปีปรับตัวขึ้น 8bps มาที่ระดับ 1.03% สูงที่สุดนับตั้งแต่เดือนมีนาคมปี 2020 ราคาทองคำย่อตัวลงมาที่ 1920 ดอลลาร์ต่อออนซ์ สวนกับราคาบิทคอยน์ขึ้นทำจุดสูงสุดใหม่เหนือระดับ 36000ดอลลาร์ ชี้ว่านักลงทุนมองไปที่การกระตุ้นเศรษฐกิจด้วยการอัดฉีดเงินเข้าสู่ระบบ

อย่างไรก็ดี เงินดอลลาร์ไม่ได้อ่อนค่ามากนักหลังมีผู้ประท้วงผลการเลือกตั้งในสหรัฐ และบางส่วนกังวลกับภาพเศรษฐกิจเพราะตัวเลขการจ้างงานภาคเอกชน (ADP) รายงานหดตัว 1.23 แสนตำแหน่งในเดือนที่ผ่านมา ขณะเดียวกันก็มองความเสี่ยงที่ทางการสหรัฐจะกลับไปใช้การล็อกดาวน์เพื่อควบคุมการระบาดของไวรัสเพิ่มสูงขึ้น

ส่วนฝั่งกัน บาทระยะสั้นไม่ได้มีความเคลื่อนไหวมาก ส่วนวันนี้แนะนำจับตาทิศทางของสกุลเงินเอเชียและตลาดทุนเป็นหลัก เชื่อว่าผลการเลือกตั้งในสหรัฐล่าสุดจะทำให้นักลงทุนมีความหวังมากขึ้น และหยุดขายทำกำไรสินทรัพย์ในฝั่งเอเชียช่วงสั้น

ส่วนในระยะยาวต้องจับตาภาพรวมสภาพคล่องจากนโยบายการคลังทั้งจากสหรัฐและนานาประเทศ ถ้าเพิ่มขึ้นต่อจากปี 2020 ก็คาดว่าส่งแรงหนุนให้มีเงินทุนไหลเข้าหนุนให้เงินบาทแข็งค่าเร็วขึ้นด้วย